Skip to main content

ผิดด้วยเหรอที่เราจะคาดการณ์? การคาดการณ์ในมุมมองของผม


การคาดการณ์มีประโยชน์ในการวางแผนที่จะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อเป็นการรับโอกาส หรือหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยบทความนี้จะขอกล่าวถึงการใช้การคาดการณ์ในการเทรด

วิวหรือมุมมองของเราที่มีต่อตลาด

การที่เรามีวิวกับตลาดยังไงในช่วงนี้ มันสำคัญในการกำหนดแนวทางเทรด
เพราะการที่จะเทรดได้ตังค์มันต้องเทรดให้ตรงกับตลาด ประเด็นมันคือแผนการณ์ต่างหาก ไม่ใช่การคาดการณ์มันผิด ไม่ควรเหมารวมว่า view เป็นการ predict ทำนายหรือฟันธง แต่ view คือเราคาดว่ามันน่าจะเป็นอย่างเงี่ย ผิดหรือถูกก็ได้
การคาดการณ์ กับความคาดหวังมันคนละเรื่อง การคาดการณ์เกิดจากมุมมองที่เรามีต่อตลาดในช่วงเวลานี้จากข้อเท็จจริงที่เรามี และตีความอย่างรอบด้าน
เราต้องมีวิวเป็นที่ยึดเหนี่ยวในการวางแผนกลยุทธ์การเทรดเป็นสมมติฐานที่เรากำหนดขึ้นมา

การใช้เทคนิคตามความเหมาะสมแล้วก็ไม่ได้มีไว้ใช้เพื่อการ predict ฟันธง แต่เทคนิคมีไว้ระบุความเป็นไปได้ของความน่าจะเป็นในอนาคตโดยอาศัยสถิติในอดีต หรือเราจะใช้เทคนิคในการกำหนดเงื่อนไขให้กับการคอนเฟิร์มในมุมมองของเราที่มีต่อตลาด
เทคนิคกำหนดเงื่อนไข มุมมองเป็นการคอนเฟิร์ม  
มุมมองมาจากการคาด การคาดมีหลายระดับ เช่น ตาดเดา คาดคะเน คาดการณ์ คาดเข็มขัด(ต้องขำมะ) ตั้งแต่โยนหัวก้อย แทงกันเลยชนแนวรับขึ้น ชนแนวต้านลง กับการใช้ข้อมูลวางแผนอย่างรอบด้าน มี แผน b แผน c รองรับไว้ในกรณีที่ผลลัพธ์ออกมารูปแบบอื่นๆ
ซึ่งในมุมมองคนภายนอก เมื่อเขาฟังไอเดียของเราก็สามารถวิจารณ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น "เขาคาดการณ์ว่า"(ให้เกียรติ) หรือ "ไอ้นี่แม่งเดา/มั่ว" (ไม่ให้เกียรติ)

ผมเชื่อว่าความสามารถ หรือทักษะ สามารถฝึกกันได้ เราสามารถคาดการณ์สิ่งต่างๆได้แม่นยำขึ้นเมื่อเรามีประสบการณ์มากขึ้น แต่เราก็ไม่สามารถฟันธงได้อยู่ดี มือใหม่จะยังไม่มีมุมมองที่มีประสิทธิภาพ เพราะยังขาดประสบการณ์ ยังรับมือกับสถานการณ์ต่างๆมาไม่มากพอ ถ้าอยากเทรดได้ดีขึ้น ก็อยู่ให้รอดนานๆสิ! ประสบการณ์จะให้อะไรเราเยอะแยะ คุณอยากจะ "รอดแล้วจึงรวย หรือรวยแล้วไม่รอด?" ขอฝากไว้ด้วยนะครับ  ---------  Tannarin

Comments

Popular posts from this blog

สมการผลตอบแทน "Return = Cash + Beta + Alpha"

วันนี้จะมาอธิบาย เรื่องของการได้ผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ จากเคสตัวอย่างที่นึกได้ตอนนี้ในแบบฉบับความเข้าใจของผม อย่างแรกเรามาทำความรู้จักสมการผลตอบแทนก่อน ที่เป็นรากฐานแนวคิด portfolio "All weather" ของ Ray Dalio กันก่อน ซึ่งก็คือ Return = Cash + Beta + Alpha Cash ก็คือ เงินสด Beta คือ Position ที่ให้"ผลตอบแทนตามตลาด" ไม่ว่าจะขึ้น(กำไร) หรือลง(ขาดทุน) ซึ่งก็จะเป็นการ Buy and hold รับปันผล(กรณีถือหุ้น) ส่วน Alpha คือ "ผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาด" เช่น กำไรก็ได้มากกว่าตลาด หรือขาดทุนก็ขาดทุนน้อยกว่าตลาด (เมื่อเทียบกับ Benchmark(IE. SET index)) เกิดจากการทำกลยุทธ์ โดยการเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินหรือควบคุมการซื้อขาย เพิ่ม/ลด ขนาดการถือครองหุ้นตามดุลยพินิจ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้จากรูปแบบนี้จะมีลัษณะแบบ Zero sum game คือเป็นการเก็งกำไร เมื่อเราได้ ก็จะมีคนอื่นๆที่เสีย ซึ่งสมการนี้จะต่อยอดไปสู่การกำหนดโครงสร้างของพอร์ตโฟลิโออีกที โดยมีการแบ่งแยกพอร์ตเป็นสัดส่วนไว้สำหรับสร้างผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆเอาไว้แต่แรก เราลองมาดูเคสต่างๆเมื่อได้รับผลตอบแทนกัน

การคัดสรรหุ้นปั่น พยายามอธิบายแบบเดาใจเจ้ามือ

ของฝากจากห้องไลน์...ขอบคุณเจ้าของบทความค่ะการคัดสรรหุ้นปั่น พยายามอธิบายแบบเดาใจเจ้ามือ1. เพราะหุ้นดีมีเจ้าของแล้ว ห... Posted by พัช บทเรียน นลท. on  11 กันยายน 2015

วิธีเช็คอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดจากธนาคารในประเทศไทย

เช็คอัตราแลกเปลี่ยน <---- กด เว็บไซต์เช็คอัตราแลกเปลี่ยน